มีวิธีเอาชนะความกลัวกันอย่างไรบ้าง?

สิ่งจะเอาชนะความกลัวได้ก้อคือวิธิคิดของตัวเรา หากเรามองโลกในมุมมองที่เป็นเหตุและผลหรือเป็นกลางคือไม่คิดเอียงเอนไปกับสภาวะอ่อนใจของจิตใจ จนกลายเป็นการสะกดจิตตัวเอง ความกลัวจะไม่เกิดขึ้น แตสิ่งที่ได้มาคือสติและปัญญาิในการพิจารณาเหตุการณ์ตามความเป็นจริง

ความกลัว อาจเกิดจาก

เคยประสบเคราะห์กรรมนั้นๆ มาก่อน

จึงกลัวว่า...สิ่งนั้นมันจะเกิดขึ้นมาอีกกับตนเอง

แต่ถ้าคุณกลัวในสิ่งที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นกับคุณแล้วล่ะก็

นั่นก็อาจจะหมายความถึง....

"คุณเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่า??"

ถ้าเป็นความกลัวอย่างหลังนี้ อาจแก้ได้โดย...

"ให้คิดเสียว่า...กำลังมีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่ข้างหน้า...

และถ้าไม่เริ่มต้น แล้วเมื่อไหร่ถึงจะได้รู้ จริงไหมคะ?"

ก็คิดซะว่าที่แห่งนั้นมันก็เหมือนกับที่ที่เราเคยไปคิดซะว่าคนอื่นไปได้เราก็ไปได้เหมื่อนกันเราคงไม่โชคร้ายอย่างนั้นหรอกเพระบางทีเราอาจจะเสียโอกาสที่จะได้เห็นสิ่งใหม่ๆบนโลกใบนี้ก็ได้

ความกลัวเกิดจากความไม่รู้แน่ชัดในสิ่งที่กลัว ถ้าไม่อยากกลัวก็ต้องทำให้รู้กระจ่างค่ะ

ไม่รู้แน่ชัดเช่น ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง ไม่รู้ว่ามันจะเกิดกับเราเมื่อไร ฯลฯ

ถ้าไม่้อยากกลัว

- ก็ต้องค้นคว้าหาคำตอบให้รู้ว่ามันคืออะไร และเป็นยังไง ถ้ารู้แล้วความกลัวก็น่าจะลดลงได้บ้าง

- ส่วนไม่รู้ว่าจะเกิดกับเราเมื่อไร อันนี้ต้อง หาทางป้องกันแก้ไข หาทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้า และที่สำคัญคือต้องอยู่อย่างมีสติค่ะ

อ๋อ ถ้าเป็นการกลัวแบบนี้ผมก็เคยเป็นครับ แต่ก็มีวิธีการเตรียมตัวคือ ถ้าเรารู้ว่าเราจะเดินทางไปในที่แห่งใดเราควรจะหาข้อมูลของสถานที่นั้นก่อน แล้วดูว่ามีสถานทูตไทยในประเทศนั้นหรือเมืองนั้นหรือป่าว ถ้ามีก็จะเป็นการดีเพราะจะทำให้เราสามารถประสานข้อมูลกับทางสถานทูต เกี่ยวกับสถานที่ การรักษาความปลอดภัย การเลือกบริษัทนำเที่ยวที่น่าเชื่อถือ ส่วนเรื่องการโดนหลอกนั้นเราก็ไม่ควรเชื่ออะไรใครง่าย ยิ่งเป็นคนที่เราไม่รู้จักด้วยแล้ว ไม่ควรเชื่ออย่างยิ่ง สำหรับเรื่องการสื่อสารนั้นก็คงไม่มีปัญหาครับ เพราะถ้ารามีความมั่นใจในตัวเองก็สามารถสื่อสารกนได้ อาจจะเป็นภาษามือ หรือมีไกด์ท้องถิ่น หรือไม่ก็อาจได้เจอคนไทยในเมืองนั้นด้วยครับ

แต่ยังไงก็แล้วแต่ถ้าสถานที่นั้นอันตราย ไม่ปลอดภัย บางทีถ้าเราไปเที่ยวที่นั่นเราอาจไม่มีชีวิตกับมาเลยก็ได้ ...

เอาชนะความกลัว ด้วยความกล้าบวกกับความบ้าที่มีอยู่ในตัวอีกนิดหน่อย แล้วก็ไปตามที่ใจอยากจะไป คิดไว้ว่ามีแต่สิ่งดีๆ อยู่ข้างหน้า อย่าคิดแค่ว่ามีแต่สิ่งร้ายๆ รออยู่ค่ะ

ถ้ากลัวเรื่องทำนองที่กล่าวก็ตั้งตนอยู่บนความไม่ประมาท อย่ามีความโลภ อย่านำตนเข้าไปเสี่ยงในที่อันตราย หรือช่วงเวลาอันตราย ไม่ไว้ใจใครต้องระมัดระวังตัวบ้าง แต่ต้องอยู่บนเหตุผลพอสมควรนะคะ

ผมว่าใช้วิธีจินตนาการก็ดีเหมือนกันนะ ให้จินตนาการว่าเราได้เผชิญกับความกลัวนั้นอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไปทีละเล็กทีละน้อย เช่นกลัวที่แคบอย่างการเข้าไปอยู่ในลิฟท์ ก็ลองจินตนาการตั้งแต่เดินเข้ามาในตึกค่อยๆเข้าไกล้ลิฟท์กดเรียกลิฟท์เข้าไปอยู่ในลิฟท์ตอนแรกขึ้นไปแค่ชั้นเดียวก่อน พยายามผ่อนคลายหายใจยาวๆขณะทีจินตนาการ จนบังเกิดความมั่นใจ ค่อยๆเพิ่มชั้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมั่นใจพอแล้วก็ลองกับของจริง วิธีจินตนาการนี้สามารถประยุกต์ได้กับความกลัวอื่นๆด้วย

กลัวแบบนี้ พระเรียกวิตกจริต คิดมาก ฟุ้งซ่าน ทำให้เกิดอุปาทาน เรื่องยังไม่เกิดก็คิดเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนจนเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้กลายเป็นคนมีอิริยาบถเชื่องช้า เซื่องซึม เหม่อลอย การงานก็จับจดไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่พูดเก่ง การบริโภคอะไรก็ได้ ไม่สนใจมาก การบันเทิงคล้อยตามคนหมู่มาก อารมณ์ฟุ้งซ่าน โลเล เดี๋ยวรักเดี๋ยวชัง ชอบคลุกคลีกับหมู่คณะ ท่านให้แก้ไขด้วยอานาปานสติ คือ ถ้ามีสติก็ไม่กลัวโน่น กลัวนี่ แค่เนี่ย ทำได้ป่าว ไม่คิดจะไปบวชชีพราหมณ์ตามวัดต่างๆที่มีโครงการในช่วงมาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา 7 วัน 15 วัน เช่น วัดอัมพวัน หลวงพ่อจรัล จังหวัดสิงห์บุรี วัดมเหยงค์อยุธยา วัดปากน้ำภาษีเจริญ วัดมหาธาตุ ที่มีหลวงพ่อดังๆ อยู่ในเครือที่ในหลวงกับพระราชินีเป็นองค์อุปถัมป์ คือ ในหลวงรับรองในด้านอริยะบุคคล ในที่ที่มีแต่กัลยณมิตรจะต้องไปกลัวอะไรอีก

วิธีนั้นให้เกิดขันติ(อดทน,อดกลั้น),ทาน(การให้),เมตตา(การโปรดสัตว์),

สติ(การยั้งคิดด้วยเหตุผล),สร้างปัญญาเพื่อทางแก้ไขครับแต่อย่าลืม

ความกล้าที่จะกระทำความดีนะครับ