ทำไมทุกๆอย่างราคาถึงแพงขึ้นๆ?

เงินเฟ้อเป็นตัวการสำคัญที่กัดกร่อนความมั่งคั่งของผู้คนไป

สมัยก่อนเคยได้ยินว่าเงินเพียง 2-3 บาทก็กินก๋วยเตี๋ยวได้ 1 ชาม

แต่เดี๋ยวนี้คงต้องชามละ 20 บาทเป็นอย่างต่ำ

ดังนั้นถ้าหากรายรับของคนทำงาน เพิ่มไม่ทันเงินเฟ้อ เราก็จะจนลง

(ผมได้ยินข่าวมาแว่วๆ ว่าจะเพิ่ม VAT จาก7% เป็น 8%)

ทำให้คนทำงานกินเงินเดือนต้องรับภาระหนักขึ้น

ทางรอดของคนยุคใหม่คือต้องดิ้นรนทำธุรกิจส่วนตัวให้ได้

คนที่ทำธุรกิจส่วนตัว เช่นคนขายก๋วยเตี๋ยวถึงแม้ราคาวัตถุดิบจะแพง

ก็ยังสามารถผลักภาระไปให้ผู้บริโภคได้ (โดยการขายแพงขึ้น)

แต่ผู้ประกอบการบางอย่างก็ไม่ดีนะครับ เพราะมีการคุมราคาตายตัว

เช่น ธุรกิจปั๊มน้ำมัน

สมัยก่อนซื้อ10 บาท ขาย 11 บาท อัตรากำไรต่อทุนเท่ากับ 10%

ตอนนี้ซื้อ 30 บาท ขาย 31 บาท กำไรเ���ลือแค่ 3% เอง

ไม่ต้องพูดถึงระดับธุรกิจใหญ่ๆ ยังไงเขารวยอยู่แล้ว

สรุปคือช่องว่างจะห่างขึ้นเรื่อยๆครับ คนฐานะธรรมดาต้องปรับตัวให้ได้

ไม่อย่างนั้นก็จะตามไม่ทันครับ

ในทางเศรฐศาสตร์ ในตลาดแข่งขันทั่วไป ราคาสินค้าปกติขึ้นกับ ความต้องการจะได้(Demand) และกำลังผลิตที่ตอบสนอง (Supply)

แต่ในความเป็นจริง ตลาดมีการผูกขาด ทั้งด้านผู้ซื้อ (เช่นห้างสรรพสินค้าใหญ่, Seven Eleven) และด้านผู้ขาย (ผู้ค้าน้ำมัน)

และยังมีกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ทั้งหมดนี้สามารถกำหนดราคาได้ และเขาก็จะทำเพื่อตัวเขา

30 ปีก่อน รายงาน ธ.กรุงเทพ แจ้งว่า รายได้ 100 บาท ของประเทศนั้น 20% ของประชากรระดับสูงสุด ได้ไปประมาณ 50 บาท ปัจจุบัน รายงานแจ้งว่า กลุ่มนี้ได้เพิ่มมากกว่าเดิม (20% ต่อมา ก็ได้เพิ่มขึ้น)

ของราคาแพงขึ้นเพราะคนที่กำหนดแนวทางราคาคือพวกนายทุน

พวกเจ้าของแหล่งพลังงาน

กรรมกรได้ขึ้นเงินเดือน 5% สินค้าจะขึ้นไป 7%

.

เจ้าของ ทรัพยากรต่างๆ จะมีรายได้มากขึ้น แต่ไม่รู้ว่าจะรวยขึ้นหรือไม่เพราะ ต้นทุน ของเค้าก็มากขึ้นเช่นกันครับ

คน ที่มี รายได้คงที่ จะจนลงครับ ถ้ารายได้ไม่ปรับตามกลไกลตลาด